9 กันยายน 2012
..."Wind of Change"...วันนี้ได้ฟังเพลงโปรดของวง Scorpions เพลงนี้ ชอบตรงดนตรีที่วังเวงและเสียงผิวปากประกอบเพลง ลองนั่งฟังเนื้อร้องแล้วรู้สึกว่ามีความหมายที่น่าสนใจก็เลยลองหาที่มาที่ไปมาเล่าสู่กันฟัง....
Scorpions เป็นวง Heavy Metal Rock ของเยอรมันครับ ตั้งเป็นวงดนตรีมาได้ 47 ปีแล้ว (ตั้งแต่ปี 1965 โน่นแน่ะ) ผู้ก่อตั้งคือ มือกีต้าร์นามว่า Rudolf Shenker ส่วนคนแต่งเพลง Wind of Change คือ Klaus Meine ซึ่งเข้าร่วมวง 5 ปีให้หลังแต่ก็กลายมาเป็นนักร้องนำ และลุง Klaus นี่แหละที่เป็นเจ้าของเสียงผิวปากในเพลงนี้ ปัจจุบันก็มีชีวิตอยู่ครบทุกคนฮะ
|
สมาชิกวงสกอร์เปี้ยนครับ ลุง Klaus คือคนที่สองจากซ้าย |
วง Scorpions ได้ไปเยือนเมืองมอสโควในปี 1989 ซึ่งเป็นปีที่สงครามเย็นยุติพอดี ลุง Klaus ก็เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองนโยบาย Glasnost (แปลว่า "การเปิด") ของกอร์บาชอฟ ที่ปฏิรูประบบราชการสหภาพโซเวียตให้โปร่งใส
นโยบาย Glasnost นี้มักจะถูกนำเปรียบเทียบกับนโยบายเปเรสทรอยก้าเสมอ ซึ่งเป็นนโยบายปฏิรูปโซเวียตให้ก้าวหน้า ก้าวพ้นความล้าหลังของระบอบคอมมิวนิสท์เต็มใบ(เสียที)
ในเนื้อเพลง Wind of Change นี้ ลุง Klaus ก็ได้พูดถึงสถานที่และสิ่งของที่เป็นรัสเซียๆไว้ดังนี้ฮะ...
1. " I follow the Moskva..." อัน Moskva นี้ก็คือชื่อแม่น้ำมอสโควที่ไหลผ่านกลางกรุงมอสโควนั่นเองครับ มีความยาว 507 กม. ซึ่งจะไหลผ่านสถานที่สวยงามหลายๆแห่ง เช่น พระราชวังเครมลิน, สะพาน Borodinsky, ที่ทำการรัฐบาล ฯลฯ เปรียบได้กับแม่น้ำเจ้าพระยาของเรานี่เอง ในช่วงเดือน พ.ย.-มี.ค.ก็จะกลายเป็นน้ำแข็งตลอดสายเลย
|
แม่น้ำมอสโคว (Moskva river) ฮะ...สวยจริงๆ |
2. "...down to
Gorky park, listening to the wind of change" ส่วน Gorky park นี้ก็คือ สวนสนุกเก่าแก่อายุเกือบร้อ
ยปีริมแม่น้ำมอสโควนี่เอง มีเนื้อที่กว่า 300 เอเคอร์ เพิ่งจะได้ปรับปรุงให้สวยงา
มทันสมัยขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
นี้เอง ลุง Klaus ใช้สวนสนุกนี้ในเชิงสัญลักษ
ณ์ของอิสรภาพที่สดใสของรัสเ
ซียชนครับ
|
Balalaika กีต้าร์สามเหลี่ยม |
3. " Let your
Balalaika sing, what my guitar wants to say" เจ้า Balalaika นี้ก็คือเครื่องดนตรีพื้นบ้
านของรัสเซียครับ หน้าตาคล้ายกีต้าร์เพียงแต่
ตรงลำตัวจะเป็นสามเหลี่ยม รูปร่างใหญ่พอสมควร ส่วนตรงคอที่เอาไว้จับคอร์ด
จะเหมือนกีต้าร์ทุกอย่างเลย
ในรัสเซียก็ยังเล่นกันอยู่ มีทั้งหมด 6 ไซส์ฮะ
เพลงนี้อายุราวๆ 23 ปีแล้ว แต่ก็ยังฮิตติดท็อปเทนของเย
อรมันและยุโรปอยู่ สถิติปัจจุบันคือ ขายได้ 6 ล้านแผ่นเฉพาะในเยอรมันประเ
ทศเดียว เพลงนี้มักจะถูกเอาไปใช้ประ
กอบวิดีโอตอนที่ทุบกำแพงเบอ
ร์ลินที่กั้นระหว่างเยอรมัน
ตะวันออกและตะวันตกเสมอ นับได้ว่าเป็นเพลงที่สะท้อน
บรรยากาศโหยหาเสรีภาพของคนยุ
คนั้นโดยแท้
....The world is closing in...Did you ever think that we could be so close, like brothers?
เก่ามาก แต่ไพเราะเสมอ
ReplyDelete