Tuesday, October 23, 2012

เลโก้

12 กันยายน 2012

…”LEGO”…มาตามคำเรียกร้องครับผม เชื่อว่าพวกเราทุกคนคงจะรู้จักของเล่นตัวต่อพลาสติก สร้างสรรค์จินตนาการของเด็กๆชื่อ LEGO นี้มานานแล้ว เรามารู้จักที่มาที่ไปของเจ้าเลโก้นี้ดีกว่า.....

เลโก้เป็นของเล่นสัญชาติเดนมาร์กครับ ผู้คิดค้นคือช่างไม้นามว่า Ole Kirk Christiansen ซึ่งใช้ฝีมือผลิตของเล่นที่ทำจากไม้ออกขายในปี 1932 และตั้งชื่อเป็นภาษาเดนนิชว่า “leg godt” (อ่านว่า Lego) แปลว่า “Play Well” นั่นเอง...
จวบจนกระทั่ง 15 ปีถัดมาคุณลุงโอเล่จึงเริ่มใช้พลาสติกมาทำของเล่นและในปี 1949 จึงได้ผลิตเจ้าตัวต่อเลโก้หน้าตาอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันออกวางจำหน่าย ซึ่งในยุคเริ่มต้นเลโก้ใช้พลาสติกประเภท Cellulose Asitate จนกระทั่งลูกชายของลุงโอเล่ ได้รับช่วงกิจการต่อและหันมาใช้พลาสติกโพลีเมอร์ที่ชื่อว่า ABS (acrylonitrile butadiene styrene) ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง, พื้นผิวเป็นมันวาว, ทนต่อกรดและน้ำ (แต่ไม่ทนต่อความร้อน)
เมืองเลโก้จำลอง

ลูกชายของลุงโอเล่เป็นผู้นำเจ้าตัวต่อเลโก้นี้จดสิทธิบัตรในวันที่ 28 มกราคม 1958 ซึ่งว่ากันว่าตัวต่อที่ผลิตในยุคนั้นก็สามารถต่อเข้ากับตัวต่อที่ผลิตในวันนี้ได้พอดีเด๊ะ.....

เลโก้ยังพัฒนาการสร้างสรรค์ตัวต่อออกมาเป็น Theme หลายๆชุดที่เรารู้จักกัน เช่น Lego City, Lego Technic, ชุดโจรสลัด, ชุด Kingdom (พวกอัศวิน+ปราสาท+มังกร), ชุด Architecture (ออกแนวสร้างตึกอาคาร), ชุด Creator รวมทั้งไปทำธุรกิจร่วมกับค่ายภาพยนตร์ชื่อดังหลายแห่งเพื่อทำของเล่น เช่น Starwars, Harry Potter, Toy Story, Spongebob, Marvel Superheroes, Pirates of the Caribbean, Indiana Jones เป็นต้น

บางคนอาจมองว่าเลโก้นั้นเป็นของเล่นสำหรับเด็กผู้ชาย เลโก้จึงผลิตเลโก้สำหรับเด็กผู้หญิงขึ้นมาเช่นกันโดยตั้งชื่อว่า Lego Friends ซึ่งมีไอเดียเป็นตัวละครเด็กผู้หญิง 5 คน ชื่อ Olivia, Mia, Andrea ฯลฯ และมีบ้าน มีรถยนต์(แบบผู้หญิงๆหน่อย) มีร้านขายดอกไม้ เลี้ยงม้าเลี้ยงกระต่าย มีร้านขายกาแฟ อะไรทำนองนี้


ชุดโมโนเรล  อีกชุดที่ผมเคยอยากได้สมัยเด็กๆ
เลโก้ทราบดีว่าขนาดของตัวต่อนั้นมีขนาดเล็กและอาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กได้ ในปี 1972 จึงได้เริ่มผลิตตัวต่อสำหรับเด็กเล็กขึ้นมาโดยตั้งชื่อว่า Duplo โดยมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของเลโก้ปกติ เหมาะสำหรับเด็กที่อายุระหว่าง 1 ขวบครึ่งถึงห้าขวบ นอกจาก Duplo แล้ว เลโก้ยังร่วมกับการ์ตูน Bob the builder และ Thomas & Friends ทำของเล่นสำหรับเด็กเล็กอีกด้วยครับ
ความนิยมเลโก้นั้นแพร่หลายไปทั่วโลก จนกระทั่งมี Legoland อยู่ในสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เยอรมัน และเดนมาร์ก ซึ่งเจ้าเลโก้แลนด์นี้เน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่มีลูกอายุต่ำกว่า 11 ปี ภายในเลโก้แลนด์ก็จะมีเมืองจำลองที่สร้างขึ้นด้วยตัวต่อเลโก้, สวนสนุก, สวนน้ำสำหรับคุณหนูๆ และในปีนี้ก็จะมีเปิดเลโก้แลนด์ที่มาเลเซียซึ่งนับเป็นแห่งแรกในเอเชีย ตามด้วยญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในปี 2015 ครับ (สำหรับเมืองไทยก็คงต้องแก้น้ำท่วมให้ได้ก่อนนะฮะเค้าถึงจะมาเปิด)

คุณภาพของเจ้าตัวต่อพลาสติกเลโก้นี้ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันครับ โดยมีการกำหนดไว้ว่า “ขนาด” ของตัวต่อแต่ละชิ้น จะคลาดเคลื่อนจากมาตรฐานได้ไม่เกิน 2 ไมโครเมตร (จากการผลิต) หากผิดเกินนี้ต้องถูกคัดออก และมีสถิติไว้ว่าในการผลิตเลโก้หนึ่งล้านชิ้น มีพบชิ้นที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่ 18 ชิ้นเท่านั้นเอง นอกจากนี้พลาสติกที่นำมาผลิตตัวต่อนั้นเป็นพลาสติกที่นำมารีไซเคิลได้ 100% อีกด้วย
นี่ละครับ  ชุดโรงพักตำรวจที่ผมอยากได้ ชุดนี้เลย!

....สำหรับตัวผมเองนั้น จำได้ว่าตอนอายุ 10 ขวบเคยไปยืนมองชุดเลโก้อยู่ที่เซ็นทรัลชิดลม แต่ไม่มีเงินซื้อเพราะแม่ให้เงินมาเที่ยว 50 บาท จำได้แม่นว่าอยากได้ชุด “โรงพักตำรวจ” ราคา 575 บาท แล้วก็ชุด “เรือโจรสลัด” ราคา 1200 บาท แพงมากในความรู้สึกเด็กชายธราพงษ์ เพราะแค่กล่องเล็กๆในสมัยนั้นก็ 90 บาทเข้าไปแล้ว.....วันนั้นบอกกับตัวเองว่าโตขึ้นมีเงินเมื่อไรจะรีบมาซื้อให้ได้.....

ทุกวันนี้เวลาเดินผ่านโซนของเด็กเล่นก็เข้าไปดูทุกที แต่ความอยากได้มันลดลงไปเยอะ (คงเพราะแก่ลงละมั้ง) ....แต่ไม่แน่เดือนหน้าอาจจะไปซื้อมาสนอง need ในวัยเด็กซะหน่อย ;)

ปล. ที่เขียนเรื่องนี้นอกจากตามที่ "คุณขอมา" แล้ว....ส่วนหนึ่งก็เพื่อสนอง need ลึกๆเหมือนกันฮะ

No comments:

Post a Comment