พลังงานไทย เพื่อใคร?

8 กันยายน 2012

อ่านบทสัมภาษณ์ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี (อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา) ซึ่ลงหนังสือ Who? ฉบับล่าสุด ถึงเรื่องที่ทำไมคนไทยถึงยากจนในขณะที่บริษัทขุดเจาะพลังงานมีกำไรแสนกว่าล้าน..... อ่านแล้ว...มีสิ่งที่คนไทยเรายังไม่รู้อีกเยอะ และผมขอนำมากระจายต่อ....ดังนี้

ไทยมีก๊าซธรรมชาติอันดับ 24 และน้ำมันดิบอันดับ 33 ของโลก.....เมื่อเทียบกับประเทศ 200 ประเทศบนโลกนี้ (ข้อมูลจาก EIA)
ไทยเรามีทั้งแหล่งน้ำมันดิบมากมายทั้งบนบกและใต้ดิน แหล่งบนบกที่ใหญ่ที่สุดคือแหล่งสิริกิติ์ (ครอบคลุม 4 จังหวัด: กำแพงเพชร, สุโขทัย, พิษณุโลก และนครสวรรค์) ขุดได้ปีละ 2,000 ล้านลิตร ในจังหวัดอื่นๆเช่น เพชรบูรณ์, สุพรรณบุรี, เชียงใหม่ ได้ปีละราวๆ 60-90 ล้านลิตรต่อจังหวัด

แหล่งใต้น้ำก็มีมากมาย แหล่งใหญ่ๆก็เช่น “แหล่งบงกช” ได้น้ำมันดิบปีละ 10,000 ล้านลิตร (ปตท.) และอีกมหาศาลที่เชฟรอนขุดอยู่ในอ่าวไทย

ม.ล.กรกสิวัฒน์บอกว่า ประเทศไทยไม่เคยสำรวจปริมาณพลังงานสำรองของตัวเองเลย ข้อมูลที่ไทยรับฟังก็ล้วนแต่มาจากบริษัทที่มารับสัมปทาน ซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่เขาจะสำรวจเอง หรือจ้างบริษัท Third Party มาสำรวจก่อนแล้วจึงจะเปิดสัมปทาน (เปรียบได้กับจะขายรถของตัวเอง แล้วให้คนซื้อรถมาตั้งราคาให้) ขนาดกัมพูชายังจ้างบริษัทที่ปรึกษามาประเมินก่อนแล้วจึงเปิดสัมปทานเลย

ปัจจุบันคนไทยใช้น้ำมันเพียง 73-75 ล้านลิตร และคงที่มา 8 ปีแล้ว ขณะเดียวกันก็ไทยก็ผลิตน้ำมันได้วันละ 160 ล้านลิตรต่อวัน แต่ส่งออกน้ำมันเกรดชั้นดีมลพิษต่ำไปขายที่อเมริกา คำตอบที่บริษัทขุดเจาะน้ำมันและส่วนราชการมักจะตอบกับคนไทยว่า “น้ำมันไทยคุณภาพต่ำ” จึงเป็นเรื่องโกหกเพื่อให้คนไทยคิดว่าบ้านเราไม่มีอะไร

สหรัฐอเมริกานำเข้าน้ำมันดิบจากไทย 1.2 ล้านบาร์เรล......แต่ขายถูกกว่าเมืองไทยลิตรละ 10 บาท ปัจจุบันราคาน้ำมันโลกอยู่ที่ 100 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล หรือ 20 บาทต่อลิตรเท่านั้น แต่เมืองไทยขายเบนซินลิตรละ 42-43 บาท

ราคาเบนซิน 95 เมื่อ 12 มีนาคม 2555: มาเลเซียลิตรละ 19 บาท, อินโดนีเซีย 31.70 บาท, พม่า 24 บาท ส่วนประเทศไทย 44.86 บาท......ไทยแพงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนแบ่งจากบริษัทขุดเจาะให้เข้ารัฐ (ไม่ใช่รัฐบาลนะฮะ แต่หมายถึงประเทศไทย) ไทยได้ต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ 30% ในขณะที่โบลิเวียซึ่งผลิตน้ำมันอันดับ 33 ของโลกเท่ากับไทยได้ส่วนแบ่ง 82% ส่วนพม่า(อันดับ 36) ได้ส่วนแบ่ง 80% และคาซัคสถาน (อันดับ 42) ได้ 80% ที่ไหนๆในโลกเขาก็ให้รายได้เข้ารัฐเป็นหลัก มีแต่เมืองไทยเท่านั้นที่รัฐเสียเปรียบ

.....ถ้าอยากจะคิดใหม่ทำใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ เราควรมีหน่วยงานกลางคอยตรวจสอบที่มิใช่กระทรวงพลังงาน เพราะคนในกระทรวงพลังงานก็ล้วนโดนบริษัทขุดเจาะซื้อตัวไปหมดแล้ว กระทั่งอัยการสูงสุดก็ยังเป็นบอร์ดบริหารปตท.เลย.....ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยควรจะดีกว่านี้มาก เราควรจี้และสนับสนุนให้มีการตรวจสอบสัมปทานของรัฐ เพื่อให้ผลประโยชน์ชาติเรากลับมาสู่พวกเรา ไม่ใช่คนบางกลุ่มหรือบริษัทขุดเจาะ

ปล. ความดีหรือความรู้ใดๆที่ได้จากบทความนี้ ขอยกให้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่กล่าวว่า “ผมเหลือพ่อของแผ่นดินและแม่พระธรณี ที่ต้องแทนคุณ” ....สำหรับผม ผมเชื่อว่าคนไทยควรได้รับรู้ข้อมูลนี้ อย่าโดนเอาเปรียบต่อไปเลย