Saturday, April 23, 2016

เกลน ฟอร์ด

เมื่อหลายเดือนที่แล้ว มีเรื่องที่ทั้งน่าสนใจและน่าเศร้าใจเกิดขึ้นในอเมริกาครับ

ที่น่าสนใจเพราะเป็นเรื่องที่นักโทษผิวดำวัย 65 ปีผู้หนึ่ง ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำในรัฐหลุยเซียน่าเมื่อศาลสูงตัดสินว่า "เขาไม่มีความผิด" หลังจากถูกขังคุกมานานกว่า 30 ปี

ส่วนที่น่าเศร้าก็คือ เมื่อออกมาจากเรือนจำแล้ว หมอตรวจพบว่าเขาเป็นมะเร็งปอด และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนเท่านั้น

ชาวผิวดำผู้นี้ชื่อว่า "เกลน ฟอร์ด" (Glenn Ford) ครับ เมื่อปี 1984 เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆ่าชายผิวขาวผู้หนึ่งชื่อ "โรสแมน" เสียชีวิต

นายโรสแมนนี้เป็นเจ้าของร้านเครื่องเพชรเล็กๆในเมือง Shreveport ส่วนนายฟอร์ดทำงานเป็นคนสวนให้กับนายโรสแมนอีกที และในวันเกิดเหตุนั้นทั้งพยานและหลักฐานต่างๆก็ชี้ว่า "นายฟอร์ดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุมากที่สุด"

ในคดีนี้นั้นมีผู้ต้องสงสัยสามคน คือ นายฟอร์ดและพี่น้องครอบครัวโรบินสัน แต่เรื่องราวมาตกอยู่กับนายฟอร์ด เพราะนางสาวบราวน์ซึ่งเป็นแฟนสาวของพี่น้องโรบินสันนี้เป็นผู้ปรักปรำว่า "นายฟอร์ดนั่นแหละที่เป็นฆาตกร"

ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ศาลและอัยการรับเอาคำให้การของนางสาวบราวน์ผู้นี้เป็นหลักฐานสำคัญ ทั้งที่ไม่มีการพบอาวุธสังหารและไม่มีพยานในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด

แถมคณะลูกขุนที่อัยการเลือกมาร่วมตัดสินในวันนั้น ก็เป็นคนผิวขาวทั้งหมด "โดยการคัดเลือกของอัยการ"

นายฟอร์ดก็จึงโดนตัดสินโทษประหารชีวิตและส่งตัวเข้าเรือนจำทันที ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในคุกนั้นเขาก็พยายามสู้คดีมาตลอด 30 ปี และในที่สุดทีมทนายก็ประสบผลสำเร็จเนื่องจากว่าในที่สุด.....นางสาวบราวน์ก็ออกมาสารภาพว่า.... "ฉันให้การเท็จต่อศาล ฉันโกหกหมดทุกอย่าง" (“I did lie to the Court... I lied about it all.”)

ศาลสูงสั่งปล่อยตัวนายฟอร์ดในวันที่ 11 มีนาคม 2015 หลังจากโดนจำคุกฟรีมา 30 ปี

หลังจากถูกปล่อยตัว อัยการที่ดำเนินคดีต่อนายฟอร์ดเมื่อ 30 ปีที่แล้วก็เขียนจดหมายมาขอโทษด้วยความสำนึกผิดในสิ่งที่เขากระทำผิดพลาดต่อนายฟอร์ดทุกๆอย่าง และขอให้นายฟอร์ดยกโทษให้

ส่วนนายฟอร์ดก็ให้คำตอบกลับไปว่า "ต้องขอโทษที่ผมจะไม่มีวันให้อภัยกับคุณ (I’m sorry I can’t forgive you. I really am.) "

"เอาเถิด แต่ผมต้องสูญเสียเวลาในชีวิตไปถึง 31 ปี และพบว่าไม่เหลืออะไรอีกเลยนอกจากความตายที่รออยู่ เพราะผมเหลือเวลาที่จะมีชีวิตอยู่อีกเพียง 6-8 เดือนเท่านั้น" (Alright, but it still cost me 31 years of my life, and then nothing at the end but death, because they give me from six to eight months to live.)

ย้อนไป 30 ปีก่อน นายฟอร์ดเล่าว่าเขามีลูกเล็กๆ 4 คนที่ต้องดูแล และเมื่อเขาออกมาจากคุกก็ได้พบว่าตัวเองมีหลานเสียแล้ว และตัวเองกำลังจะตายเพราะมะเร็งขั้นเกือบสุดท้าย

เรื่องนี้ฟังแล้วเศร้า และไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นในประเทศอเมริกาได้ แต่ก็เกิดแล้วครับ ชีวิตคนหนึ่งคนต้องพังทลายเพราะความพิกลพิการของระบบ


ปล. ทีมทนายของนายฟอร์ดได้เรียกร้องเงิน 330,000 เหรียญจากรัฐหลุยเซียน่าเป็นค่าชดเชยการเสียโอกาสของนายฟอร์ด แต่ถูกปฏิเสธ.....

No comments:

Post a Comment