ต้นแบบการสร้าง "กรุงเทพมหานคร" นั้น....มาจากไหน?
ไปเดินพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วมาหลายครั้ง และทุกครั้งก็ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมที่งดงามมากๆ แล้วก็จินตนาการย้อนไปเมื่อปี 2325 ที่แรกสร้างกรุงเทพฯกัน แล้วก็สงสัยว่าท่านเหล่านั้นเอาต้นแบบมาจากไหน
พอไปค้นดูในตู้หนังสือที่บ้านก็เจอเรื่องเล่าถึงเมื่อแรกสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ว่า รัชกาลที่ 1 ท่านทรงใช้ "กรุงศรีอยุธยา" เป็นต้นแบบครับ ด้วยเพราะท่านเป็นนายทหารที่มีชีวิตอยู่และได้เห็นสมัยที่กรุงศรีอยุธยางดงามรุ่งเรืองถึงขีดสุด เรื่อยมาจนกระทั่งกรุงแตก
ต้องขอบอกก่อนว่า เมื่อพม่าเข้ามาเผาอยุธยานั้น ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเสียจนหมดสิ้นจริงๆ ทั้งเอกสารประวัติศาสตร์ก็โดนทำลาย อาคารบ้านเรือนปราสาทราชวังก็โดนเผาทิ้งจนไม่เหลือสิ่งใดไว้ยึดเหนี่ยวชนชาติไทยเลย ประวัติศาสตร์ 417 ปีของกรุงศรีฯต้องพินาศพังภินท์ไปก็ครานั้น
เหตุที่ทหารพม่าโกรธแค้นจนต้องเผาทำลายกันย่อยยับขนาดนั้น เพราะว่าต้องทนทรมานตั้งทัพล้อมกรุงอยู่ถึง 2 ปีกรุงศรีอยุธยาจึงได้แตก
พอจะเริ่มสร้างกรุงเทพฯนั้น รัชกาลที่ 1 ท่านก็สั่งให้ทหารกลับไปกรุงศรีอยุธยาไปรื้อเอาอิฐ หิน กำแพงที่เป็นซากปรักหักพงลงมาทั้งสิ้น แล้วนำขึ้นเรือล่องลงมายังกรุงเทพฯ ด้วยพระประสงค์ที่ว่าจะสร้างเมืองหลวงของชาติขึ้นมาให้เหมือนกรุงศรีอยุธยาเดิมให้มากที่สุด
บรรดาช่างฝีมือทั้งสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมก็รวบรวมกันมาเพื่อสร้าง "ของเก่าอันงดงามให้เกิดขึ้นมาใหม่"
เราก็เลยได้เห็นว่าในพระบรมมหาราชวังก็มีวัดพระแก้วอยู่ข้างใน เช่นเดียวกับกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดพระศรีสรรเพชญ และกรุงสุโขทัยที่มีวัดมหาธาตุอยู่ในพระราชวัง
บรรดาปราสาทราชวังนี้เป็นความเร่งด่วนที่รัชกาลที่ 1 ท่านให้สร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นจุดยึดเหนี่ยวเราชาวไทยที่บอบช้ำครอบครัวพลัดพรากและเสียความเป็นชาติไป ให้กลับมารวมตัวกันใหม่เข้มแข็งดั่งเดิม
งานก่อสร้างต่างๆจึงเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและงดงามด้วยความร่วมใจของชาวกรุงเก่า ใช้เวลาเพียง 3 ปี พระบรมมหาราชวังก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีพ.ศ. 2328 ด้วยความน่าพิศวงว่า "ทำได้อย่างไร" ทั้งที่เรียกได้ว่าสร้างจาก "from the ground up"
เมื่อเรามีเมืองหลวงแล้ว ความเป็นชาติก็เริ่มคืนความเข้มแข็ง ขุนพลทหารก็มีหลักยึดในการปลุกใจให้สู้รบรักษาบ้านเมืองต่อไป ซึ่งจะเห็นได้จากชัยชนะจากสงครามเก้าทัพที่พม่ายกพลมาทันทีหลังจากที่รัชกาลที่ 1 สมโภชน์พระนครเสร็จ
ความงามของพระบรมมหาราชวังนั้น บาทหลวงชาวฝรั่งเศสคือ สังฆราชปาเลอกัวซ์ ผู้ที่ได้เห็นวัดพระแก้ว 45 ปีหลังสร้างเสร็จ ได้บันทึกไว้ว่า "ของที่วิเศษที่สุดในกรุงเทพฯ คือ พระราชวังและพระอารามหลวง พระอารามหลวงนั้นงดงามวิจิตรอย่างยิ่ง อย่างที่เราชาวยุโรปจะคิดเดาขึ้นไม่ได้"
....ขอดวงพระวิญญาณของบูรพกษัตริย์และบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของเรา สถิตย์ปกปักรักษาแผ่นดินไทยไปชั่วลูกสืบหลานด้วยเถิด....
No comments:
Post a Comment