คนที่สนใจก็คงอยากรู้เช่นเดียวกันกับผมว่า แล้วชาร์จทีนึงมันจะวิ่งได้ไกลเท่าไร คำตอบก็คือ แบตเตอรี่ขนาด 80 กิโลวัตต์ชาร์จเต็มเนี่ยวิ่งได้เต็มที่ 480 กิโลเมตรครับ และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เขาคือ 8 ปี พอครบแปดปีแบตเสื่อมปุ๊บก็ซื้อเปลี่ยนได้ แถมมีให้ซื้อแบตสำรองได้ด้วย เช่นถ้ากะว่าจะวิ่งไปไกลๆ ก็สามารถแบกแบตสำรองแล้วไปถอดสวอปเปลี่ยนกลางทางได้เลย
ทีนี้การชาร์จแบตเพื่อใช้งานประจำวัน ก็ไม่จำเป็นต้องชาร์จเต็มทุกวันครับ เช่นถ้าเราใช้เฉลี่ยวันละ 100 กม. เราก็เสียบปลั๊กชาร์จกับปลั๊กที่บ้านแค่วันละ 2 ชั่วโมง ต้นทุนก็ตามค่าไฟน่ะครับ ราวๆ 80 บาทต่อวัน
ผู้ผลิตคือ บริษัทเทสลามอเตอร์ เขาแนะนำให้ใช้ไฟขนาด 240 โวลท์เพื่อชาร์จไฟครับเพราะให้กำลังชาร์จสูงกว่า ซึ่งก็ตรงกับขนาดไฟบ้านเราพอดี (เมกาเขาใช้ 110 โวลท์) เราซื้อรถมาปุ๊บเราก็แค่ซื้อระบบชาร์จไฟมาติดตั้งที่บ้าน ก็คือมีหัวสายเสียบกับปลั๊กที่บ้านแล้วก็สายไฟต่อมาเสียบกับแบตรถเราอีกที ถ้าขับไปถึงออฟฟิศก็สามารถเอาสายชาร์จเคลื่อนที่เสียบกับปลั๊กที่ออฟฟิศได้เลย (แต่อาจต้องมีโมดิฟายหัวปลั๊กหน่อย)
ในอเมริกาและยุโรปเขามีสถานีชาร์จไฟ หรือเรียกว่า "ซุปเปอร์ชาร์จเจอร์" ไว้ให้รถไฟฟ้าแล้วราวๆ 120 สถานี ส่วนในเอเชียเรามีอยู่ 3 สถานีคือที่เซี่ยงไฮ้สองสถานีกับที่ปักกิ่งอีกหนึ่งสถานี และกำลังเปิดเพิ่มอีกเรื่อยๆ ความเจ๋งของสถานีนี้คือ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาชาร์จไฟให้น่ะเอง สมกับเป็นพลังงานสะอาดทั้งวงจรจริงๆ
ตอนนี้เทสลามอเตอร์เขาผลิตออกมารุ่นเดียวครับคือ Model S เป็นรถซีดาน มี 3 รุ่นให้เลือกตามกำลังแรงม้า เริ่มจาก 302 แรงม้า ขึ้นไปถึง 416 แรงม้า รับประกันแบตให้เลย 8 ปี
ราคาจัดอยู่ในระดับรถหรู คือ ราวๆ 2.2-2.8 ล้านบาท (ราคาในเมกาครับ) ซึ่งคุณภาพและการตกแต่งภายในก็ถือว่าหรูจริง ไม่ได้ป๊อกแป๊กเหมือนโตโยต้าพรีอุส และในปีหน้าก็จะออกรุ่นใหม่ออกมาอีกคือ Model X ซึ่งจะเป็นแบบ SUV แล้ว เห็นรูปแล้วงามงดมาก...
No comments:
Post a Comment