เมื่อวานได้ไปดูหนังดีมาหนึ่งเรื่องคือ Les Miserables ครับ อ่านว่า “เล มีเซราบล์” เป็นหนังที่สร้างขึ้นมาจากนิยายอมตะสัญชาติฝรั่งเศสอายุราว 150 ปี ประพันธ์โดย “วิคเตอร์ ฮูโก” นิยายเรื่องนี้มีทั้งหมด 5 ตอนครับ คือ Fantine, Cosette, Marius, The Idyll in the Rue Plumet and the Epic in the Rue St. Denis และ Jean Valjean นิยายชุดนี้เป็นที่โด่งดังและได้รับการแปลออกไปหลายๆภาษาทั่วโลกเนื่องจากผู้เขียนพรรณาบรรยากาศในสมัยหลังการปฏิวัติฝรั่งเศสช่วงปี 1815-1832 ได้อย่างลึกซึ้งถึงรายละเอียดชีวิตผู้คน สถาปัตยกรรม สภาพความยากลำบาก ความเป็นอยู่ที่ยากเข็ญของชนชั้นล่างในสมัยนั้น ด้วยเพราะผู้แต่งใช้ชีวิตอยู่ในช่วงนั้นพอดีนั่นเอง
คำว่า Les Miserables นี้แปลได้ว่า “เหล่าผู้ทุกข์ทน” แต่ผู้แปลเป็นภาคไทยคือ “จูเลียต” หรือ คุณชนิด สายประดิษฐ์ (ภรรยาคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ เจ้าของนามปากกา “ศรีบูรพา”) ตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า “เหยื่ออธรรม” ซึ่งก็ให้ความหมายได้ชัดเจนทีเดียว
ฌอง วัลฌอง (ฮิวจ์ แจ๊คแมน) |
เนื้อเรื่องพูดถึงชีวิตของ ฌอง วัลฌอง (แสดงโดย ฮิวจ์ แจ๊คแมน) ที่ติดคุก 19 ปีเพราะขโมยขนมปังมาให้หลานชายที่หิวโหย หลังจากพ้นโทษออกมาชีวิตก็ตกทุกข์ได้ยาก เพราะในเอกสารประจำตัวระบุตราหน้าว่าฌองเป็นนักโทษเก่า ก็เลยหางานทำไม่ได้และต้องอาศัยนอนข้างถนน จนกระทั่งมาพบเข้ากับบาทหลวงมีเรียล ที่เข้ามาช่วยเหลือและพลิกชะตาให้ฌองกลับมาศรัทธากับชีวิตตัวเองอีกครั้ง จนกระทั่งฌองปลอมเปลี่ยนตัวตนจนประสบความสำเร็จเป็นนายกเทศมนตรีและเจ้าของโรงงานเพื่อช่วยเหลือหางานให้ชาวบ้าน แต่ขณะเดียวกันฌองก็ต้องคอยหวาดระแวงการติดตามของตำรวจไร้มนุษยธรรมนามว่า “ฌาแวร์” (รัสเซล โครว์) อีกด้วย
ฟองทีน (แอนน์ แฮททาเวย์) |
อยู่มาวันหนึ่งฌองก็ได้มาช่วยเหลือฟองทีน (แอนน์ แฮททาเวย์) ซึ่งเป็นหญิงสาวที่ชีวิตพลิกผันให้ต้องมาเป็นโสเภณี ขายเส้นผม ขายฟัน 2 ซี่เพื่อส่งเงินไปช่วยเหลือลูกน้อยนามว่า “โคเซ็ตต์” และก่อนที่ฟองทีนจากโลกนี้ไปด้วยความทุกข์ระทมกายใจ ฌองก็ให้คำสัตย์ว่าจะดูแลเด็กน้อยโคเซ็ตต์ ซึ่งชีวิตของฌองก็ต้องผกผันแปรไปอีกครั้งเมื่อต้องทำหน้าที่พ่อผู้เสียสละเลี้ยงดูจนโคเซ็ตต์โตเป็นสาว และฌองต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องแฟนหนุ่มของโคเซ็ตต์ที่เป็นแกนนำกลุ่มต่อต้านระบบศักดินาจนรอดชีวิตกลับมาแต่งงานกับโคเซ็ตต์
นิยายเรื่องนี้ได้รับการทำออกมาเป็นละครเวทีและภาพยนตร์หลายครั้งมากครับ สำหรับในเวอร์ชั่นที่ฉายตอนนี้ก็เป็นภาพยนตร์แบบมิวสิคัล เพลงที่นำมาใช้ร้องนั้นก็ล้วนแต่นำมาจากบทละครเวทีดั้งเดิมทั้งสิ้น นักแสดงทุกคนก็ร้องสดด้วยตัวเองเช่นกัน สำหรับนักแสดงที่ผมว่าแสดงได้ดีสุดๆก็คือ แอนน์ แฮททาเวย์ ที่รับบทเป็นฟองทีน โดยในฉากที่ร้องเพลง “I dreamed a dream” นั้นแอนน์แสดงได้กินใจและร้องได้ไพเราะมากๆ เมื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอแล้วก็ยิ่งประทับใจ คือคุณแม่ของแอนน์นั้นเป็นนักแสดงละครบรอดเวย์และได้แสดงในบทฟองทีนในยุคแรกๆที่ Les Miserables เข้ามาแสดงในสหรัฐฯเช่นกันครับ
ภาพหน้าปกนิยาย Les Miserables ในฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 150 ปีก่อน เป็นรูปเด็กน้อยโคเซ็ตต์ |
ผู้เขียนนั้นเอาคาแรกเตอร์ของฌอง วัลฌอง มาจากบุคคลจริงในยุคนั้นชื่อ Eugène François Vidocq (ดูรูปการแล้วผมไม่กล้าอ่านออกเสียงฮะ) ซึ่งเป็นอดีตนักโทษที่ภายหลังกลายมาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และได้เอาประสบการณ์เป็นอาชญากรของตัวเองมาช่วยพัฒนาระบบการสืบสวนของตำรวจฝรั่งเศส จนได้รับการยกย่องเป็น “บิดาของกรมตำรวจฝรั่งเศส” เลยทีเดียว นอกจากจะเอาคาแรกเตอร์มาใช้แล้ว ผู้เขียนยังเอาเรื่องจริงที่ว่าคุณ Vidocq ยกเกวียนขึ้นบ่าตนเองเพื่อช่วยชีวิตคนงานโรงงานกระดาษมาใส่ในนิยายด้วย และฉากนี้ก็เป็นอีกฉากหนึ่งที่ประทับใจในภาพยนตร์เวอร์ชั่น 2012 นี้เช่นกันครับ
นิยาย Les Miserables นี้มีความยิ่งใหญ่ทั้งคุณภาพงานเขียน คุณค่าทางประวัติศาสตร์ กินใจถึงความทุกข์ระทมของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความอยุติธรรมครับ ถ้าใครมีเวลาว่าง ผมแนะนำให้ไปดูหนังเรื่องนี้กันครับ แล้วจะได้แนวคิดดีๆออกมาอีกเยอะเลย สำหรับผมนั้นเห็นว่านิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังฝรั่งไม่กี่เรื่องที่เชิดชูเห็นว่าศาสนาเปลี่ยนชีวิตคนที่ยากไร้ให้กลับมามีกำลังใจและส่งต่อความดีงามกันต่อไปได้อย่างไรครับ